วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558

ดู Freelance แล้วย้อนดูตัวเอง ... [SPOILER ALERT]



ไม่ได้รีวิวหนังอะไรนะครับ แต่ดูแล้วรู้สึกตรงกับชีวิตตัวเองยังไงไม่รู้

เปิดเรื่องมาด้วยประโยคว่า "คนเราควรนอนวันละ 6-8 ชั่วโมง" สะอึกเลย เหมือนโดนด่า 555+

ยุ่นทำงานแบบไม่หลับไม่นอน ไม่มีเวลาว่าง ไม่มีเวลาเจอเพื่อน ถึงเราจะไม่หนักขนาดนั้น แต่ก็เหมือนสะท้อนชีวิตตัวเองโคตรๆ ยิ่งจังหวะที่รู้สึกเหมือนตัวเองทำงานได้ไม่ดี แต่กลับดีในสายตาคนอื่นและได้รับคำชมนี่ หายเหนื่อยแทน

พอเริ่มป่วยจนกระทบการทำงาน (นี่ก็ตรงอีก) ไปหาหมอ ได้ยามา สิ่งที่ทำให้สะอึกได้อีกระลอกคือการไม่ยอมกินยาก่อนนอน (ที่ทำให้ง่วง) ทุกครั้งที่ไปหาหมอก็จะบอกว่ายาหมดแล้ว เพราะหมอให้ยาตามจำนวนวันที่หมอนัดครั้งถัดไป ถ้าบอกว่ายังเหลือหมอก็จะจับได้ จนตอนนี้ยาก่อนนอนตัวนั้นเหลือเต็มบ้าน

หันมองเครื่องช่วยหายใจที่วางไว้เฉยๆ นานๆ จะใส่สักครั้งเพราะไม่ชอบใส่ มันเสียเวลา วันนี้ไปหาหมอ ผลในเครื่องฟ้องว่าระยะเวลาที่เอาเครื่องมาใช้ 1 เดือน นั้น เราไม่ได้ใส่ถึง 13 วัน และมีเพียง 10 วัน ที่เราใส่เครื่องนั้นเกิน 4 ชั่วโมง แล้วจะหายได้ไงเนอะ

สิ่งหนึ่งที่ไม่ตรงคือหมอเรามีอายุและไม่สวยเหมือนในหนัง 555+

พอยุ่นมีงานใหญ่เข้ามา ก็รับทันที แม้ในใจจะรู้ว่าร่างกายไม่พร้อม และเวลาแทบจะไม่มี ตรงเป๊ะกับชีวิตช่วงนี้ แต่เราก็ฝ่าฟันมันมาได้ แม้จะเสียมาตรฐานตัวเองไปเล็กน้อย

นั่งมองบัตรสมาชิกฟิตเนสรายปีที่เพิ่งหมดอายุไปก็เสียดาย ที่เคยบอกกับตัวเองว่าจะจัดเวลา ฟิตเนสอยู่ใกล้โรงเรียน ยังไงก็ไปได้ แต่สุดท้ายใช้ไม่คุ้มเลยจริงๆ

จังหวะที่ยุ่นพยายามนอนเร็ว แต่ก็หลับไม่ลงเพราะกังวลงาน อันนี้น้ำตาจะไหล พี่เต๋อเอาชีวิตเราไปทำหนังใช่มั้ยเนี่ย >"<

เมื่อพีคจนถึงจุดหนึ่งก็ต้องหันกลับมาทำเพื่อตัวเอง ปฏิเสธงาน หาเวลาให้ตัวเอง ของเราอาจจะหนักกว่านั้นคือเปลี่ยนงานไปเลย

คิดไปคิดมาแล้วเราก็ควรทำอะไรสักอย่างเพื่อชีวิตตัวเอง จะได้ไม่ต้องพบจุดจบแบบในหนัง เรายังตายไม่ได้ ยังมีอะไรไม่ได้ทำอีกเยอะเลย

วงการการศึกษามันโหดร้าย ^^"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น